ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร
ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน
แม้อยู่ในใต้หล้าสุธาธาร
ขอพบพานพิสวาทมิคลาดคลา
แม้เนื้อเย็นเป็นห้วงมหรรณพ
พี่ขอพบศรีสวัสดิ์เป็นมัจฉา
แม้เป็นบัวตัวพี่เป็นภุมรา
เชยผกาโกสุมปทุมทอง
แม้เป็นถ้ำอำไพขอให้พี่
เป็นราชสีห์สมสู่เป็นคู่สอง
ขอติดตามทรามสงวนนวลละออง
เป็นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป
__________________________________________________
Analysis
บทประพันธ์โดยสุนทร (ภู่) นี้กล่าวถึงความรักที่ยิ่งใหญ่ที่ชายหนุ่มมีต่อหญิงสาวที่ตนรัก กลอนท่อนนี้ได้บ่งบอกผู้อ่านว่าแม้ว่าหญิงสาวจะอยู่หนใด ชายหนุ่มนั้นไม่อยากพลัดพรากจากเธอและจะตามไปแม้ห่างกันไกลถึงคนละโลก ผู้แต่งได้แสดงความรู้สึกนี้โดยการรวมส่วนประกอบต่างๆ เช่นการบรรยายให้เห็นภาพ (imagery) อุปมาและอุปมัย
การเปรียบเทียบความรักกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่และอุปสรรคต่างๆ ที่ต้องพบ เช่นความรักที่จะคงอยู่ตลอดไป "ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร" ก่อเกิดให้เราสัมผัสและรู้ถึงพลังความรักอันยิ่งใหญ่ของชายหนุ่ม นอกเหนือจากนี้ การใช้อุปมาและอุปมัยเพื่อเปรียบเทียบชีวิตของทั้งสองนั้นมีผลต่อบทกลอนเป็นอย่างสูง ตัวอย่างเช่น การที่ชายหนุ่มนั้นอยากตามหญิงสาวตลอดแม้พลัดพรากจากกัน หากเธอเป็นน้ำ เขาก็จะตามไปเป็นปลา หากเธอเป็นดอกบัว เขาก็จะตามไปเป็นแมลง หรือผึ่งเพื่อจะได้ใกล้ชิดเธอ และหากเธอเป็นถ่ำ เขาจะเป็นราชสิงห์ที่เอาเธอเป็นคู่ครอง กลวิธีนี้สำคัญมากในกลอนบทนี้เพราะมันทำให้ความหมายของกลอนมีพลังมากขึ้น ยิ่งกว่านั้นคำบรรยายเหล่านี้ทำให้เราเห็นภาพมากขึ้น
กลอนบทนี้มีเนื้อหาที่มีความหมายเป็นอย่างมาก เพราะการใช้ถ้อยคำที่เฉลี่ยวฉลาดของกวีนั้นในรูปแบบกลอนแปด สิ่งนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้กลอนท่อนนี้ค่อนข้างยากที่จะวิเคราห์ (interpret) หากเราไม่อ่านอย่างละเอีอด การสัมผัสอักษรและจังหวะตามแนวทางของกลอนแปดทั้วไป และถ้อยคำที่ถูกใช้ย่อมเกี่ยวข้อง (contribute)แก่เนื้อเรื่อง ตัวอย่างเช่น ส่วนมากผู้แต่งจะได้เลื่อกใช้คำที่อ่อนหวาน น่าฟังแล้วอ่อนโยนต่อหูผู้อ่าน (sibilance sounds) เพื่อให้และเติมเต็มอารมณ์ของกลอน อักษร/คำเหล่านี้รวมถึง "ส" "พ" "ท" "น" และเห็นได้จากตัวอย่างข้างล้างนี้
ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร
ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน
แม้อยู่ในใต้หล้าสุธาธาร
ขอพบพานพิสวาทมิคลาดคลา
แม้เนื้อเย็นเป็นห้วงมหรรณพ
พี่ขอพบศรีสวัสดิ์เป็นมัจฉา
แม้เป็นบัวตัวพี่เป็นภุมรา
เชยผกาโกสุมปทุมทอง
แม้เป็นถ้ำอำไพขอให้พี่
เป็นราชสีห์สมสู่เป็นคู่สอง
ขอติดตามทรามสงวนนวลละออง
เป็นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป
นอกเหนือจากนี้ผู้แต่งได้แทนสัพท์ต่างๆ เพื่อทำให้กลอนไพเราะและรื่นไหลมากขึ้น ศัพท์เหล่านี้รวมถึง "ภุมรา" แทนคำว่า "แมลง" ซึ่งทำให้กลอนลื่นไหลมากขึ้น ภุมรานั้นเป็นศัพท์ที่ฟังแล้วรู้สึกอ่อนโยน และเหมาะสมกับเนื้อหาดังกล่าว แต่คำว่าแมลงนี้ เวลาเอ่ยออกมาไม่ไพเราะเท่าภุมรานั้นเอง
"ราชสีห์" เป็นอีกคำที่กวีใช้ได้อย่างสวยงาม แทนคำว่า "สิงโต" คำว่าราชสีห์นี้ทำให้ดูมีชั้นและเป็นสิงโตที่ยิ่งใหญ่ มี (positive connotations) ตรงข้ามกับสิงโตที่ฟังดูธรรมดา ผู้แต่งได้ใช้สัพท์อย่างดีเพราะมันเข้ากันกับวรรค "เป็นราชสีห์สมสู่เป็นคู่สอง" เมื่อราชสีห์ สัมผัสอักษรกับ "ส" ทำให้กลอนฟังดูอ่อนหวานและโรแมนติกมากยิ่งขึ้น
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ขอแชร์ให้ล฿กศิษย์ในเพจครูธนพร.comเป็นวิทยาทานนะคะ ขอบคุณค่ะ
ตอบลบอยากได้ความหมาย
ตอบลบเสียดายในเพลงคำมั่นสัญญา มีการแปลงเนื้อบางส่วนไปอย่างน่าเสียใจ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบแม้อยู่ในใต้หล้าสุธาธาร
ตอบลบขอพบพานพิสวาทมิคลาดคลา
แม้เนื้อเย็นเป็นห้วงมหรรณพ
พี่ขอพบศรีสวัสดิ์เป็นมัจฉา
แม้เป็นบัวตัวพี่เป็นภุมรา
เชยผกาโกสุมปทุมทอง
1. จากคำประพันธ์ข้างต้นุุุุุุุถอดคำประพันธ์หน่อยค้ะ?
2. ข้อคิดเรื่องนี้
ขอคุณค่าด้านเนื้อหา
ตอบลบด้านวรรณศิลป์
ด้านสังคมหน่อยค่าาา
ขอเปลี่ยนเป็นคุณค่าทางวรรณคดีนะค้า
ลบคำว่าภุมราไม่ได้แทนที่แมลงครับ เพราะดอกบัวมีผึ้งตอม คงไม่มีใครแต่งกลอนบอกว่าแมลงตอมดอกบัวนะครับ
ตอบลบสุนทรภู่ไม่ได้ใช้คำว่าว่าภุมราแทนคำว่าแมลงเพื่อความงามของคำประพันธ์ แต่มันใช้คำว่าแมลงไม่ได้ในเชิงความหมายของบทประพันธ์ครับ
วิเคราะห์ได้ดี แต่สะกดคำผิดเยอะเลยค่ะ เช่น พิสวาท ช่วยตรวจทานหน่อยนะคะ
ตอบลบ